แผนที่ ๒
แผนการเรียนรู้โดยวิธีสอนแบบโครงงาน เรื่อง
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา
และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ขั้นให้ความรู้เรื่องวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เวลา
๒ ชั่วโมง
............................................................................................
๑.
สาระการเรียนรู้
สาระที่
๑
มาตรฐาน ต ๑.๑
เข้าใจกระบวนการฟังและการอ่าน
สามารถตีความเรื่องที่จะฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และนำความรู้มาใช้อย่างมีวิจารณญาณ
มาตรฐาน ต ๑.๓
นำเสนอข้อมูลข่าวสาร
ความคิดรวบยอด
และความคิดเห็นเรื่องต่าง ๆ
โดยการพูดและการเขียน
๒. จุดประสงค์การเรียนรู้
เพื่อสร้างองค์ความรู้ การร่วมพิธีกรรม
และมีคามพอใจเต็มใจในการกระทำกิจกรรมต่าง ๆ
ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
๓. สาระการเรียนรู้
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเป็นวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญทางพระพุทธศาสนาในสมัยพุทธกาล
พุทธศาสนิกชนทุกคนควรยึดวันเหล่านี้ไว้เพื่อระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย พร้อมทั้งควรประกอบศาสนพิธีต่างๆ
เพื่อดำรงศาสนาให้ยั่งยืนมั่งคงสืบไป
๔. กิจกรรมการเรียนรู้
๑.
ครูทบทวนเกี่ยวกับความหมายความสำคัญและประเภทของโครงงานโดยการพูดคุย โดยการถามตอบของนักเรียน โดยให้นักเรียนตอบปากเปล่า หลาย ๆ
คน เกี่ยวกับความสำคัญของโครงงาน
๒. ให้นักเรียนร่วมกันแสดงคามคิดเห็นว่า วันสำคัญทางศาสนาในแต่ละเดือน มีวันสำคัญอะไรบ้าง
๓. ครูให้โอกาสนักเรียนสนทนาซักถาม
๔. ครูจัดกระบวนการเรียนรู้โดยการให้นักเรียน สำรวจ
สืบค้นข้อมูล อธิบาย วิเคราะห์ข้อมูลจากภาพและประเด็นคำถาม จนเกิดความรู้เรื่องราวเกี่ยวกับวันสำคัญ ซึ่งให้นักเรียนสามารถนำความรู้ไปปรับประยุกต์ใช้จริงในขั้นตอนการทโครงงานได้
๕.
ครูให้นักเรียนในชั้นเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่า ทำไมเราจึงต้องเรียนเกี่ยวกับวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
(แนวตอบ) เพื่อให้ทราบถึงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และปฏิบัติตนได้ถูกต้องในวันสำคัญนั้น
๖. ครูอธิบายถึงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาโดยสังเขป
แล้วสุ่มให้นักเรียนออกมาเล่าพุทธประวัติตอนใดตอนหนึ่ง
๗. ครูให้นักเรียนอ่านข้อมูลวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาจากหนังสือเล่มเล็กที่ครูจัดทำไว้ แล้วถามนักเรียน
๘. นักเรียนทำแบบทดสอบ
๕. สื่อการเรียนรู้
๑. หนังสือเล่มเล็ก เรื่อง
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา มีดังนี้
-
วันมาฆบูชา
-
วันวิสาขบูชา
-
วันอัฏฐมีบูชา
-
วันอาสาฬหบูชา
-
วันเข้าพรรษา
-
วันออกพรรษา
๒.
ใบงาน
๓.
แบบทดสอบ
๖. การวัดและประเมินผล
|
รายการวัด
|
เครื่องมือวัด
|
เกณฑ์การประเมิน
|
|
ผลงานตามใบงาน
|
ใบงาน
|
ร้อยละ ไม่ต่ำกว่า
๓ ข้อ
|
|
ทักษะการปฏิบัติกิจกรรม
|
แบบประเมิน
|
ไม่ต่ำกว่าระดับ ๓
|
|
ทักษะการทำแบบทดสอบ
|
แบบประเมิน
|
ไม่ต่ำกว่า ระดับ
๓
|
|
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
|
แบบสังเกต
|
ไม่ต่ำกว่าระดับ ๓
|
|
ทักษะความรู้ความเข้าใจเรื่องพุทธประวัติ
|
แบบสังเกต
|
ไม่ตำกว่าระดับ
๓
|
ข้อเสนอแนะของผู้บริหารสถานศึกษา
เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่มีกิจกรรมให้นักเรียนเป็นผู้ลงมือปฏิบัติมากที่สุด เปิดโอกาสให้นักเรียนเป็นผู้ค้นพบคำตอบ
หรือทำสำเร็จด้วยตนเอง
และเป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการ มุ่งให้นักเรียนรู้และนำขบวนการไปใช้จริง จึงเป็นแผนที่ดีสามารถเป็นแบบอย่างผู้อื่นได้
ลงชื่อ_________________________
(ผู้บริหารสถานศึกษา)
(นางสงบ จันทรเสนา)
๒๔ / มิถุนายน / ๒๕๕๖
บันทึกหลังการสอน
ผลการจัดการเรียนการสอน
นักเรียนมีความตระหนักเห็นความสำคัญเกี่ยวกับการเรียนรู้แบบโครงงาน คิดเป็นร้อยละ
๘๗
ปัญหา / อุปสรรค
นักเรียนที่ไม่ผ่านผลการเรียนรู้
ร้อยละ ๑๓ เป็นเพราะนักเรียนเป็นผู้เรียนรู้ช้า ไม่สามารถอ่านหนังสือเล่มเล็กเรื่องพุธประวัติได้
แนวทางแก้ไข
ครูได้ใช้หนังสือเรื่อง พุทธประวัติ
โดยครูพาอ่านทีละหน้า อ่านซ้ำบ่อย ๆ
และอธิบาช้า ๆ จนนักเรียนเข้าใจสามารถจดจำเนื้อหาความรู้จากเรื่องพุทธประวัติได้ นักเรียนมีความพอใจ และภูมิใจในตนเองมาก นักเรียนมีความสุขในการเรียนรู้ มีความสุขสนุกสนานจากการเรียน สามารถนำความรู้จากการอ่านย้ำ ไปอ่านคำที่เห็นในหนังสืออื่น ๆ ได้
ลงชื่อ_____________________________
(ผู้บันทึก)
(นางสิริพร ทาชาติ)
๒๕/ มิถุนายน /๒๕๕๖
ใบงาน |
|||
 |
|||
 |
|||
 |
|||
แบบทดสอบ
กา
× คำตอบที่ถูกต้องที่สุด
๑. ต้นกำเนิดของพุทธประวัติอยู่ในแคว้นใด
ก.
แคว้นโกศล ข แคว้นสักกะ
ค.
แคว้นมคธ ง. แคว้นมัลละ
๒. ผู้ใดที่ทำนายไปในทางเดียวว่า เจ้าชายสิทธัตถะจะสละราชบัลลังก์ออกผนวช
ก.
โกณฑัญญะ ข. อสิตดาบส
ค.
วิศวามิตร ง. กาฬุทายี
๓. เจ้าชายสิทธัตถะเห็นว่าการมีสถานภาพในข้อใด จึงสามารถหาทางพ้นทุกข์ได้
ก.
กษัตริย์ ข. นักปราชญ์
ค.
ฆราวาส ง. สมณะ
๔.
กลุ่มบุคคลใดที่พระพุทธเจ้าทรงเห็นว่ามีอัธยาศัยเหมาะกับธรรมของพระองค์ สมควรแสดงธรรมโปรด
เป็นกลุ่มแรก
ก. ปัญจวัคคีย์ ข.
พระยสะและเพื่อน
ค.
พระอุรุเวลากัสสปะและบริวาร
ง. พระราชบิดาและพระประยูรญาติ
๕. เพราะเหตุใดพระเจ้าสุทโธทนะจึงวิตกพระทัย เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะโน้มเอียงไปทางธรรม
ก.
ต้องการให้พระโอรสดูแลพระองค์
ข. ต้องการมีพระราชนัดดาไว้เชยชม
ค.
ต้องการให้พระโอรสสืบราชสมบัติ
ง. เกรงว่าพระโอรสจะไม่อภิเษกสมรส
๖. ธรรมในข้อใดเป็นเหตุให้เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกผนวช
ก.
สังขาร ๔ ข. เทวทูต
๔
ค.
อวิชชา ๔ ง. ธาตุ ๔
๗.
พระสิทธัตถะกระทำความเพียรเป็นเวลานานเท่าใดจึงตรัสรู้
ก.
๔ ปี ข. ๕ ปี
ค.
๖ ปี ง. ๗ ปี
๘.
เพราะเหตุใดผู้ที่ทูลอาราธนาพระพุทธเจ้าให้เสด็จกรุงกบิลพัสดุ์ จึงไม่กลับมาแจ้งข่าว
ก.
ทำงานไม่สำเร็จจึงไม่กล้ากลับมา
ข. ตามหาพระพุทธเจ้ายังไม่พบ
ค.
ระหว่างทางถูกโจรป่าทำร้าย
ง. ได้ฟังธรรมแล้วทูลขอบวช
๙. พุทธกิจ
หมายถึงข้อใด
ก.
การงานที่พระพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น ข. การบำเพ็ญเพียรของพระพุทธเจ้า
ค.
การสะสมบารมีของพระพุทธเจ้า ง.
การปรินิพพานของพระพุทธเจ้า
๑๐. พระพุทธเจ้าเสด็จกรุงกบิลพัสดุ์ เพื่อทำพุทธกิจด้านใด
ก.
โลกัตถจริยา ข.
ญาตัตถจริยา
ค.
พุทธัตถจริยา
ง. พุทธจริยา
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น